ข่าวสารความเคลื่อนไหว

 
  
ในหมวดนี้ ข้าพเจ้าจะเอาไว้อัพเดท ความคบหน้าต่างๆ รวมถึงจะเอาไว้แจ้ง เวลาที่ข้าพเจ้าปล่อยเพลงใหม่ๆให้ท่านได้ฟังกัน ยังไงลอหมั่นเข้ามาเช็คในหมวดนี้บ่อยๆ เลื่อนลงไปอ่านได้ที่ด้านล่าง

18/06/16 

มิถุนา 59 หวัดดีสหายทั้งหลายที่สัญจรผ่านมา นานครั้งที่ข้าพเจ้าจะเข้ามาอัพเดทซักที 1เดือนกว่าๆที่ผ่านมานี้ มีเรื่องที่ทำให้จิตใจต้องว้าวุ่น แต่มันก็ทำให้ชุ่มชื่น ข้าพเจ้าได้เจอกับบางสิ่งที่แสนวิเศษ เป็นสิ่งที่ดูช่างธรรมดาๆ แต่มันกับงดงามและกินใจข้าพเจ้าเหลือเกิน
สิ่งๆนี้ เป็นสิ่งที่วิญญาณของข้าพเจ้า เคยเดินทางค้นหามันมานาน  แต่ก็ดูเหมือนฟ้าจะไม่ค่อยชอบขี้หน้าข้าพเจ้าซักเท่าไหร่ ถึงมักจะเล่นตลกกับข้าพเจ้าอยู่เสมอๆ  ก็ได้แต่เพียงหวังว่า ผู้ครอบครองสิ่งวิเศษสิ่งนี้ จะทะนุถนอม และ ดูแลรักษาสิ่งๆนี้ให้ดีๆ หวังว่าจะเห็นมุมที่งดงาม และบอบบาง เฉกเช่นเดียวกับข้าพเจ้า คงน่าเสียดายแย่ ถ้าสิ่งๆนี้จะถูกทิ้งขว้าง และถูกทำให้อับเฉาในวันหน้า คงน่าเสียดายแย่ ถ้าสิ่งๆนี้ จะต้องตกไปอยู่ในกงเล็บของนักบุญกำมะลอ ฤา ต้องไปตกเป็นเหยื่อปากเหยี่ยวปากกา จะว่าไป นั่นคือเรื่องของใจ มาต่อกันที่เรื่องของเพลง หลังจากที่จิตใจว้าวุ่นอยู่ซักพัก ก็เริ่มกลับมาเข้าที่เข้าทางเช่นเดิม ปกติทุกครั้งที่ข้าพเจ้าจะทำงานเพลง ข้าพเจ้าจะตัดทุกสิ่งออกจากใจให้หมด เพื่อเอาสมาธิมาจดจ่ออยู่กับงาน ณ.ตอนนี้ เวลานี้ สิ่งที่ฝ่าฟัน บากบั่นมาเกือบ10ปี เริ่มตกผลึกออกมาเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนแล้ว  หลังจากที่ลองผิดลองถูกกับมันมานับครั้งไม่ถ้วน  ด้วยวิธีการที่สุดระห่ำ คือการทุ่มเทเอาชีวิตของตัวเองไปแลกมันมา เหลือแค่เจียระไนมันอีกนิดหน่อย พร้อมนำเข้าเตาหลอมมันออกมา เเละเจ้าสิ่งๆนี้ มันจะทำหน้าที่ของมันในวันข้างหน้า มันอาจจะเข้าไปนั่งอยู่ในใจใครซักคน มันอาจจะเข้าไปปลูกต้นกล้าลงในใจใคร มันอาจเป็นเสียงที่ร้ำร้องแทนใจใครหลายๆคน มันอาจเปลี่ยนแปลงบางสิ่ง หรือมันอาจจะเป็นเพียงสายลมที่ว่างปล่าว ก็คงสุดแล้วแต่กาลเวลา เพื่อนเอ๋ย.....อีกเพียงนิดเดียว



                                                      โคมทอง 18/06/16

.........................................................................................................................................................



  16/06/15

ห่างหายไปนานนม ไม่ได้มาอัพเดทข่าวคราวลงเว็บเลย จนเริ่มหลงๆลืมๆวิธีใช้เว็บซะแล้ว ก่อนอื่น ข้าพเจ้าขอแจ้งข่าวสารถึงสหายซักหน่อย ข่าวคือ ข้าพเจ้าได้ทำการเปลี่ยนสมญานามจาก โชกุน มาเป็น โคมทอง และทำการก่อตั้ง จุติ ขึ้นมา เพื่อแยกจาก siam infinity
 เพราะในระยะเวลา8ปีที่ผ่านมา บทเพลงที่ข้าพเจ้าสร้าง หลายเพลงอารมณ์มันไม่เข้ากัน จึงต้องแบ่งออกเป็น2ชื่่อ ขอให้ท่านติดตามทั้ง จุติ และ siam infinity ซึ่งข้าพเจ้าจะคอยปล่อยเพลงมาให้ทุกท่านได้ฟังกัน อ่านรายละเอียดต่อที่ลิงค์ด้านล่าง


https://www.youtube.com/watch?v=XWk02D-K2qU

 

และในวันนี้ ข้าพเจ้ามี Demo มาให้สหายได้ฟังกัน3เพลง นั่นคือ ถึงเธอผู้จากไป , 19/12/09 , ช้างกระทืบโลง เป็นdemoที่ข้าพเจ้าอัดเก็บไว้นานแล้ว  เข้าไปชม ไปฟัง กันได้ที่่Youtube Channel

http://www.youtube.com/user/siaminfinity

ในวีดีโอintoของเพลง.ช้างกระทืบโลงนี้ กว่าจะเสร็จ หนักหนาสาหัสเอาการ ข้าพเจ้าต้องฟัดกับคอมพิวเตอร์อยู่นานพอสมควร มันไม่ง่ายเลย ที่จะนำเอาภาพจากจินตนาการในหัว ออกมาเป็นรูปธรรม ข้าพเจ้าต้องวาดรูปขึ้นมา จากนั้น ต้องถ่ายรูปที่วาดเพื่อนำลงคอม ซึ่งกล้องของข้าพเจ้า มันก็ไม่ค่อยจะชัด ต้องหาวิธีถ่ายอยู่นาน เพื่อให้ชัดที่สุด จากนั้นก็ต้องเอารูปที่วาดมาแต่งให้มันได้อารมณ์ กรดสีดำ หรือ น้ำจากเหล็กไหลที่ถูกหลอม คือไม่รู้จะอธิบายภาพที่ข้าพเจ้าเห็นในหัว ออกมาให้ทุกท่านเข้าใจยังไง อักขระ ต่างๆในinto ที่ท่านรับชม มันจะให้อารมณ์ กรดสีดำ ที่ถูกหลอมออกมาเป็นอักขระ เมื่อข้าพเจ้าเอารูปที่วาดมาปรับเสร็จ ก็มาถึงขั้นตอนที่สาหัสเอาเรื่อง ก็คือ การตัดต่อรูปที่วาดในinto เนื่องจากคอมพิวเตอร์ของข้าพเจ้ามันเก่ามาก และในการตัดต่อวีดีโอ ข้าพเจ้าต้องใช้หลายLayerมาก มันจึงทำให้เครื่องค้าง ไม่สามารถตัดต่อไปดูผลที่ตัดต่อไปด้วยได้  ข้าพเจ้าจึงต้องใช้วิธี กะ เเละ เดาเอา คือตัดต่อปรับแต่งโดยที่ไม่สามารถเห็นผลที่ปรับได้ ต้องใช้วิธีsaveออกมา เพื่อดูผลที่ตัดต่อไป ซึ่งกว่าจะseveเสร็จ ก็ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง  แต่ผลที่ออกมามันก็ยังไม่เป็นที่พอใจ ข้าพเจ้าจึงต้องทำแบบนี้ซ้ำๆเป็น20-30ครั้ง เพื่อให้มันออกมาใกล้เคียงกับจินตนาการในหัวที่สุด ซึ่งแม่งต้องใช้ความอดทนสูงมาก ล่อซะเหนื่อยฉิบหายเลย เกือบถีบคอมอยู่เหมือนกัน
 


และก็เพลง 19/12/09 เพลงนี้เริ่มแต่งไว้ปี 2008 เป็นช่วงเริ่มหัดทำเพลง ยังทำอะไรไม่ค่อยเป็นเลย เขียนเสร็จสมบูรณ์ ในคืนวันที่19/12/09 ซึ่งเป็นคืนที่ข้าพเจ้ารู้สึก ท้อแท้ กับ ชีวิต

 



และ ถึงเธอผู้จากไป ข้าพเจ้าแต่งไว้ตั้งแต่สมัยเริ่มหัดทำเพลง ในปี 2008 เช่นกัน ซึ่งตอนนั้นยังทำอะไรไม่เป็น ใช้ไมค์ราคา100กว่าบาท MIXเสียงกับโปรแกรมตัดต่อวีดีโอ เพราะตอนนั้นยังใช้โปรแกรมทำเพลงไม่เป็น แต่ก็ทำอย่างสุดความสามารถ เท่าที่ในตอนนั้นจะทำได้ จะว่าไปในบางคราว ก็นึกขำตัวเอง เพราะในช่วงเวลานั้น ข้าพเจ้าลองผิด ลองถูกมามากมายเหลือเกิน ตั้งแต่ อัดใส่วิทยุเทป อัดใส่โทรศัพท์มือถือ อัดในตู้เสื้อผ้า อัดใส่กล้องถ่ายวีดีโอ แบกลำโพง+ไมค์  ทุรักทุเรไปอัดเสียงในรถ เคยผ่านทั้งไมค์จากหูฟัง  +ไมค์ก้านที่เขาเอาไว้คุยแชท สารพัดสารเพ 

- เคยได้ยินเมโลดี้อันน่ามหัศจรรย์ แว่วดังเข้ามาในจิตตนเอง แต่แทบประสาทกินจนบ้า เมื่อหาที่อัดเสียงไม่ได้  

- เคยทดลองวิธีแผลงๆ ในสมัยหัดทำเพลงช่วงแรกๆ โดยการใช้วิธีดำดิ่งลงไปสู่ความหม่นหมอง เพื่อสัมผัสกับอารมณ์ที่ลึกที่สุดในจิต
จนเกือบขาดสติ  


- เคยทรุดตัวลงพื้น เมื่อคอมนรกโดนไวรัส เคยเอากบาลโขกผนัง เมื่องานที่ทำมาข้ามวัน อันตรธานไปกับไฟฟ้ามหาประลัย(แม่งดับบ่อยมาก ไฟฟ้าเมืองไทย)
 

- เคยเบื่อกับการสะดุดล้มซ้ำๆ  เคยหน่ายกับการต้องเอาหัวยันพื้นเพื่อลุกขึ้นมาซ้ำๆ เคยถามตัวเองว่า ทำไม  ทำไม ทำไม และทำไม
 

- เคยรู้สึกว่าโลกนี้แม่งไม่ยุติธรรม  เคยรู้สึกว่า ความดี ไม่มีอยู่จริง  เคยตะโกนถามต่อทุกสิ่งว่า ทำไมชีวิตกู ถึงต้องเจอแต่ อุปสรรคมากกว่าชาวบ้านเขา

- เคยยกตีนขึ้นฟ้า ถ่มด่าโชคชะตา  เคยหันหลังให้ศาสนา เคยสูญสิ้นต่อความดีงาม เมื่อเจอปัญหาถาโถมเข้ามาโดยไม่หยุดหย่อน
 

- เคยรอคอยแสงส่องสว่างจาก สายรุ้ง ตอน พายุร้ายพัดมา แต่ก็รู้สึกแสงของรุ้งฟ้ามันไม่เคยปรากฎ 

- เคยอดทนกับความหิวโหยประจำ ประจำ และ ประจำ เคยคิดจะไปออกรายการแฟนพันธุ์แท้มาม่า 

- เคยเอาตีนก่ายหน้าผากบ่อยๆ เมื่อต้องใช้เงิน เคยกลืนน้ำลายแทนน้ำ แดกอากาศแทนข้าว 

- เคยรู้สึก โดดเดี่ยว อ้างว้าง เพราะสิ่งที่ข้าพเจ้าทุ่มเทกระทำ ไม่มีใครหน้าไหนเลยที่เข้าใจ ไม่มีใครหน้าไหนเลย สนับสนุน ส่งเสีย หรือ ส่งเสริม  ทั้งที่มันก็เป็นสิ่งที่ดี  แต่ทั้งหมดข้าพเจ้าต้องสู้ด้วยตัวเองเพียงลำพัง
 

- เคยรู้สึกใจหาย เมื่อเห็นคนที่เคยรัก แต่งงานกับคนที่มีอนาคต แต่เราแม่งยังไม่ไปไหน 

- เคยนอนซมกับความท้อแท้ข้ามเดือน  เคยประสาทหลอน ซึมเศร้า

- เคยปวดหัวทุกครั้งหลังจากตื่นนอน เพราะต้องใช้ห้องนอนเป็นห้องอัด  ซึ่งในห้องนอนเต็มไปด้วยฝุ่นจากฟองน้ำซับเสียง ในห้องนอนข้าพเจ้านั้น ไม่ต่างอะไรจากถ้ำ เพราะไม่มีช่องว่างให้แสงส่องเข้ามาได้เลย เพื่อไม่ให้เสียงรบกวนลอดเข้ามา เป็นปีๆที่ต้องทนนอนอยู่แบบนั้น กับ ร่างกายที่ย่ำแย่ โดยเฉพาะช่วงที่ต้องใช้เงินกับงานเพลง เป็นช่วงที่ปวดหัวโครตหนักทุกครั้งที่ตื่น เพราะไม่สามารถเปิดแอร์ได้เนื่องจากต้องประหยัดเงิน จึงจำต้องนอนแบบนั้นโดยที่ไม่มีแม้รูให้อากาศลอดเข้ามา เนื้องจากหน้าต่างตีไม้ปิดหมด รูทุกรูอุดหมด ต้องอยู่ในสภาพแบบนั้นเป็นปีๆ 
 

- เคยหมดเงินหลายตังไปกับอุปกรณ์โดยสูญปล่าว เพราะมันใช้ไม่ได้ตรงกับความต้องการ ทั้งที่อดออมเก็บเงินมาแรมปี  เคยไปซื้ออุปกรณ์ทำเพลงหลายอย่าง เคยต้องแบกขาไมค์ อุปกรณ์ทำเพลง ขนขึ้นรถเมล์มา ด้วยความยากลำบาก 

- เคยไปซื้อaudio interfaceมาทำเพลง แต่ขากลับฝนแม่งเสือกตกเหมือนฟ้าแม่งจะแกล้ง ลุ้นฉิบหายว่า ฝนแม่งจะเข้ามาเปียกเครื่องมั้ย สุดท้ายต้องเอาเสื้อห่อ และ ลุยน้ำที่ท่วมอย่างทุรักทุเลในกลางดึก 

- ในช่วงที่ไฟยังแรง เคยไม่หลับไม่นอน นั่งเขียนเพลงข้ามวันข้ามคืน จนเลือดไหลออกจมูก เพราะกลัวอารมณ์พิเศษที่ผ่านเข้ามานั้นหายไป 

- เคยฟันฟาดกับมารผจญ จนสะบัดสะบอม บางครั้งข้าพเจ้าได้ฟาดมัน บางครามันได้กระทืบข้าพเจ้า ตลอดระยะเวลาการเดินตามความฝัน มันจะคอยเข้ามาลอบกัดข้าพเจ้าเสมอ บางปีแม่งล่อซะ ชีวิตข้าพเจ้าเกือบเป๋ไปเลย
 


ไม่มีครั้งไหนเลย ที่ข้าพเจ้าจะทำอะไรได้อย่างราบรื่นเหมือนชาวบ้านเขา ต้องฟาดฟันกับอุปสรรค ตลอด ผ่าน วัน เดือน ปี ถลอกปอกเปิกจน เนื้อตัวด้าน บางครั้งเหนื่อยหน่าย บางครั้งสาหัส บางครั้งเบิกบาน บางครั้งขื่นขม บางครั้งท้อแท้ บางครั้งสิ้นหวัง กว่าจะมาถึงวันนี้ สูญเสียพลังงานไปเยอะเหลือเกิน ยิ่งกว่าการออกไปชกต่อย ตี รัน ฟัน แทง กับชาวบ้าน เหมือนในสมัยอดีตซะอีก 8ปีที่เริ่มคิดจะทำงานเพลง เพื่อจะเปลี่ยนแปลงสังคม ผ่านมาจนถึงวันนี้ หนทางแม่่งหฤโหดเหลือเกิน ไม่มีดอกไม้ปูโรยไว้เหมือนชาวบ้านเขา ซ้ำแม่งยังมีตะปูเรือใบ คอยทิ้มแทงบาทา จนเลือดสาดกระเซ็น  จากหนุ่มที่เต็มไปด้วยไฟที่โชติช่วง ผ่านมาวันนี้ สังขารข้าพเจ้าโรยราไปมากเหลือเกิน แต่ก็อีกไม่นาน ฝันข้าพเจ้าก็จะสำเร็จแล้ว อีกเพียงไม่นานนี้ งานเพลงของตัวเองก็จะสมบูรณ์ จำนวนเพลงทั้งหมดในระยะเวลา8ปีที่บ่มเพาะมานี้ก็ 50กว่าเพลง อาจต้องแบ่งเป็น4อัลบั้ม 

ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา คืออุปสรรคเพียงแค่เศษเสี้ยวเดียว ในระยะเวลาที่ข้าพเจ้าผ่านพ้นมา  จริงๆที่บ้านข้าพเจ้าก็ไม่ได้ลำบาก หรือ ยากจนอะไรมากนัก แต่ข้าพเจ้ามันดันทะลึ่ง อวดดี ทรนงในหนทางของตัวเอง โดยที่ไม่พึ่งใครเลย จึงจำต้องลำบาก ฉิบหายวายป่วง แต่ก็จะให้ทำยังไง ข้าพเจ้ามันหัวแข็งมาแต่เด็ก ไม่มีใครมากำหนดให้ข้าพเจ้าเป็น แบบนั้น แบบนี้ได้ ทั้งชีวิตที่เติบโตมา ข้าพเจ้าเชื่อตนเอง และโตมาด้วยตนเองตลอด อาจเพราะไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่สมบูรณ์ หรือ อบอุ่น พ่อแม่แยกทางกันแต่เด็ก ในด้านจิตใจ ข้าพเจ้าจึงเติบโตมาด้วยตนเองตลอด และทุกก้าวย่างที่ข้าพเจ้าเลือก ข้าพเจ้าก็ไม่อยากทำให้ครอบครัวที่บ้านลำบาก จึงจำต้องพึ่งพาตนเอง  แม้มันจะโดดเดี่ยว  แต่ก็มีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำ ศิลปะ ที่ข้าพเจ้ารัก ถึงแม้ความลำบากมันจะมากก็ตาม  จะว่าไปชีวิตข้าพเจ้ามันก็ผิดแผลก ไม่ตรงตามกฎเกณฑ์เสมอมา
 

ตั้งแต่ป.5 เด็กคนอื่นเขาคาบหลอดดูดนมกัน ข้าพเจ้าก็ดัดทะลึ่งคาบบุหรี่สูบ ในช่วงมัธยม เด็กคนอื่นเขาตั้งหน้าตั้งตา อยู่ในชั้นเรียน ข้าพเจ้าก็ตั้งหน้าตั้งตา ออกไปเรียนรู้ชีวิตนอกห้องเรียน ชีวิตส่วนใหญ่หมดไปกลับการ เที่ยว  เต็ดเตร่บนท้องถนน กลับถึงบ้านเช้าแทบทุกวัน จนมาถึงวัยที่เด็กคนอื่น ทะยานออกไปเข้ามหาลัยกัน
ข้าพเจ้ากลับเลือกดิ่งเข้าหาตัวตน เด็กคนอื่นคิดกันว่า ข้าจะเข้าคณะไหนดีเพื่อจะได้ทำงานดีๆ เงินเดือนสูงๆ ขณะที่ข้าพเจ้าคิดว่า กูจะเปลี่ยนแปลงสังคมนี้ให้ดีขึ้นยังไง จากเคยเต็ดเตร่อยู่ภายนอก ก็เลือก จำศีลอยู่กับตัวตน รู้จักตัวตน เรียนรู้ตัวตน ศึกษาหลายๆสิ่ง ที่ไม่มีสอนในตำราเรียน ด้วยตนเอง พร้อมใช้ชีวิตทุกวีนาทีเพื่อออกตามความฝันของตนเอง

 

จริงๆวันนี้ กะจะมาแจ้งข่าวสาร แต่ก็บ่นมาซะยาว ถือว่าวันนี้ ข้าพเจ้าขอระบายแล้วกัน  ยังไงโปรดติดตามกันต่อไปสหายที่รักทั้งหลาย



                                                      โคมทอง 16/06/15

.........................................................................................................................................................




  12/06/14 

ข้าพเจ้าได้สร้างหมวด ในทรรศนะของข้าพเจ้า เอาไว้ ขีดเขียน เรื่องราวต่างๆสัพเพเหระ 
ยามมีเวลาว่าง สหายทั้งหลายลองเข้าไปอ่านกันได้ ในหมวด ในทรรศนะของข้าพเจ้า

                                                           โคมทอง 12/06/14

.........................................................................................................................................................




15/04/13  
 
  โลกใบนี้  มีฟากอยู่สองฟาก มีด้านอยู่สองด้าน ฟากหนึ่ง คือความงาม อันเป็นด้านสว่าง 
ฟากหนึ่ง คือความบิดเบี้ยว อันเป็นด้านหม่น สองฟากนี้ อยู่คู่กันเสมอ ในโลกกลมๆใบนี้ 
แต่  คนเรา  มักจะสร้างภาพลวงตาเข้าหากัน มักจะหยิบยก ความงาม มาอำพรางความืด
มน หารู้ไม่ ทุกๆเสียงหัวเราะ ในฟากฝั่งอันโสภา มันยังมีหยดน้ำตา อยู่ในฟากฝั่งอันโสมม 
พลุแห่งความยินดี มันจะดังซักเพียงใด เสียงลั่นไกใส่ขมับมันก็ดังไมต่างกัน อย่ามัวหลงรส
ชาติของความหวาน จนกลัวรสชาติของความขม อย่าชินกับความสว่าง จนลืมความมืดเมื่อ
ครั้งดับไฟ ถ้าเราไม่รู้ถึงความมืดว่ามันเป็นเช่นไร เราก็จะไม่มีวันรู้ถึงคุณค่าของแสงสว่าง   

                                                       โคมทอง 15/04/13

.........................................................................................................................................................

 01/02/13

ข้าพเจ้า โคมทอง ในนามSIAM INFINITY & จุติ ขอชีแจงแด่เพื่อนพ้องน้องพี่ทั้งหลายว่า 
SIAM INFINITY  ไม่มี facebook นะครับ เพราะตัวข้าพเจ้านั้นเล่นไม่เป็น และยัง
ไม่มีความคิดที่จะเล่น หากต้องการติดตามข่าวสาร ความเคลื่อนไหว หรือซิงเกิ้ล
ต่อไปของSIAM INFINITY & จุติ ให้ติดตามได้ที่ เว็บไซต์แห่งนี้เท่านั้น เพราะตัวข้าพ
เจ้ามีพื้นที่ ที่ใช้สื่อสารกับพวกท่านเพียงแห่งเดียวเท่านั้น คือณ.ที่แห่งนี้ ซึ่งข้าพ
เจ้าจะเป็นคนคอยอัพเดทด้วยตนเอง ดังนั้นหากมี บุคคล องค์กร ใดๆ ที่ใช้ชื่อSIAM 
INFINITYบนfacebook ขอให้รู้ว่า บุคคล หรือองค์กรเหล่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
กับ SIAM INFINITYของข้าพเจ้า จึงเรียนมาเพื่อทราบ

                                                       โคมทอง 01/02/13

..........................................................................................................................................................
  

 11/01/13

" แด่ พวกนาย และ พวกเธอ ทั้งหลาย ผู้เปรียบดั่งสหายของข้าพเจ้า "
 

ถึง น้องๆและสหายทั้งหลาย ที่เมล์มาถามว่า เมื่อไหร่จะได้ฟังเพลใหม่ ก่อนอื่น 
ข้าพเจ้า ต้องขอบคุณทุกๆคน ที่ส่งจดหมายมาถามไถ่ในอีเมล์ รวมถึงน้องจิ๋บ.ศิลปากร
ที่เสนอตัวจะทำเฟรซบุ๊คให้ แต่เนื่องจากว่ ข้าพเจ้านั้นเล่นไม่เป็นจริงๆ เลยต้องขอ
ปฏิเสธไป แต่ก็ขอบคุณสำหรับความหวังดี และคุณ.ลุงตี๋เปิ๊ดสะก๊าด ด้วย สำหรับข้อ
ความดีๆ ที่ส่งมาช่วยเติมไฟในกายข้าพเจ้า ที่ใกล้มอดดับให้ลุกโชน เรามันพันธุ์เดียว
กันสหาย  เป็นแกะดำรักสันโด ที่ไม่ชอบถูกล้อมคอก เป็นพวประเภทแดกอุดม
การณ์แทนข้าวเหมือนกัน แม้มาม่าจะเหลือซองสุดท้ายก็ตาม 55555 ถึงท่านจะอาวุธ
โสกว่าข้าพเจ้าหลายปี แต่อายุ อานาม ไม่สามารถสร้างกำแพง ปิดกั้น ข้าพเจ้าได้ จะห่าง
กัน 10ปี หรือ 7ชั่วโครต จะ ยาจกข้างถนน หรือ เศรษฐีบนวิมาน ท่านก็คือ สหายของ
เรา ขอให้ท่านจงเชื่อมั่นในความดีต่อไป อย่าหวั่นไหวต่อ ภาพลวงตา หรือขายวิญญาญ
ให้กับความจอมปลอม หากท่านกลายเป็น อสูรกาย เหมือนคนพวกนั้น วงการข้าราชการ
ของไทย คงน่าเศร้าใจยิ่งนัก แม้ว่าวันนี้ โลกอาจจะมองไม่เห็นท่าน แต่สักวัน ความดีที่
ท่านกำลังทำ มันจะทำให้ท่านยิ้มได้อย่างภาคภูมิ หวังว่าวันหน้า ข้าพเจ้าคงได้มีโอ
กาส รินสุราคาราวะท่าน. สหาย





























ว่ากันต่อเรื่องงานเพลง ข้าพเจ้าขอชี้แจง ในนี้ที่เดียวเลยและกัน เพราะว่าข้าพเจ้าไม่
มีเวลา ไล่ตอบอีเมลของแต่ละคน และตัวข้าพเจ้าก็ไม่มีเฟสบุ๊ค และยังไม่คิดจะเล่น 
เลยขอตอบทุกท่านในนี้เลย สำหรับคำถามที่ว่า เมื่อไหร่เพลงใหม่จะเสร็จซักที และ
จะได้ฟังเมื่อไหร่ ทำไมนานจัง  ข้าพเจ้าขอตอบเลยและกันว่า เสร็เมื่อไหร่คงเมื่อ
นั้น อาจพรุ่งนี้ เดือนหน้า ปีหน้า หรือ10ปี ไม่มีกาลเวลากำหนด ถ้รักกันจริง ต้องรอ
กันได้ เพราะทุกเพลงของข้าพเจ้า ต้องการทำออกมาให้มันดีทีสุด ทุกๆอักษรที่ข้าพ
เจ้าสลักลงกระดาษ ทุกๆเสียงตวาดที่แหกปากร้อง มันต้องเกิจาอารมณ์ ความรู้สึก  
ความสะเทือนใจต่อเรื่องนั้นๆ ข้าพเจ้าถึงแต่งและร้องออกมาได้ บางเพลง ข้าพเจ้าใช้
เวลาเป็นเดือนๆ มันยังไม่มีอารมณ์ที่จะร้องเลย เพราะทุกเพลข้าพเจ้าจะใส่วิญญาญ
ลงไปด้วยเสมอ บทเพลงของข้าพเจ้า ไม่อิงกระแส ไม่มีใครหน้าไหนมาขีดเส้นตายว่า  
ต้องเสร็จเวลานั้น เวลานี้ ทุกอย่างมันคืออิสระ ไม่มีสิ่งใดมาครอบงเพราะมีหลายครั้ง  
ที่ข้าพเจ้าพยามเร่งมันให้เสร็จ แต่ผลลัพธ์ก็พบว่า มีจุบกพร่องอยูหลายๆอย่าง ที่มัน
ยังไม่สมบูรณ์ตามต้องการ ข้าพเจ้าเลยต้อง แก้แล้ว แก้อีก เริ่มต้นใหมแล้ว เริ่ม ต้นใหม่
อีก ข้าพเจ้าบ่มเพาะบทเพลงมา5ปี ตัวข้าพเจ้าอยากให้คนได้ฟังทุกวัน ไม่มีวันไหนเลยที่
ข้าพเจ้าไม่นึกถึงคนฟัง 



















จริงๆ เพลงทั้งหมดในอัลบั้มนี้ ข้าพเจ้าแต่งเสร็จหมดแล้ว รวมทั้งเรียบเรียงคอรัส เสียง
ประสาน มีทั้งหมด18เพลง คัดออกไป40เพลงในระยะเวลา5ปีของการเริ่มต้นทำเพลง 
จนตอนนี้ อยู่ในช่วงขั้นสุดท้าย ของการพยามมาหลายปี นั่นคือการ อัด และ mixเสียง ซึ่ง
เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่ถนัดเลย อย่างที่เคยบอกไป ข้าพเจ้าไม่มีความรู้เรื่องการmixเสียง หรือ
ทฤษฎีเกี่ยวกับดนตรีเลย อุปกรณ์ก็ไม่พร้อมเหมือนตามห้องอัดเค้า แต่กอยากให้งานออกมา
ดีมีคุณภาพ จึงต้องลองผิด ลองถูก หาเทคนิคในการmixอยู่นานพอสมควร อีกทั้งสภาพแวด
ล้อม ก็ไม่ค่อยเอื้ออำนวยกับการอัดเสียงเทาไหร่นัก ในอัลบั้มนี้ หลายเพลง ต้องทำดนตรี
เพิ่มขึ้นใหม่ บวกกับ บางเพลงค่อนข้างยาก และต้องมีคนอื่นมาร่วมร้องด้วย เลยใช้เวลานาน
เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน เพราะทั้งหมดนี้ข้าพเจ้าทำเองเพียงคนเดียว

















แรกเริ่มเดิมที ย้อนไปณ.เดือนนี้ ของเมื่อ5ปีที่แล้ว พ.ศ 2551 ข้าพเจ้าเริ่มคิดอยากจะมีอัลบั้ม
ซักชุด เป็นของตัวเอง หลังจากที่ลูบคลำcdของศิลปินคนอื่นมานา ข้าพเจ้าเลยตัดสินใจเขียน
เพลง และตั้งวงsiam infinity ขึ้นมา ร่วมกับเพื่อนอีก2คน แต่เนื่องจากเพื่อนของข้าพเจ้านั้น 
เขียนเพลงไม่เป็น และไม่ค่อยมีเวลา แต่มีใจรัก ข้าพเจ้าเลยทำเองทั้งหมด ไม่ว่าจะคิดคอนเซ็ป/
แต่งเมโลดี้/เนื้อร้อง/อัดเสียง/mixเสียง/ร้อง /เรียบเรียง/ออกแบบปก/ทำเว็ไซร มันเลยใช้เวลา
นานพอสมควร ซึ่งหลายคนที่ไม่เคยทำเพลงอาจจะไม่เข้าใจ แต่ขอให้ทุกท่านที่ใจร้อน อดใจรอ
เพียงชั่วครู่ ขอเพียงรอ รอให้เราสร้างสะพานที่แข็งแรงทอดให้ท่านได้ข้ามผ่านมาหาเรา ข้าพ
เจ้าสัญญา ด้วยพลังทั้งหมดที่ข้าพเจ้ามี ว่าข้าพเจ้าจะไม่ทำให้พวกท่านผิดหวังแน่นอน เเละ
เมื่อวันนั้นมาถึง วันที่อัลบั้มแรกในชีวิตของข้าพเจ้าเสร็จสมบูรณ์ วันนั้นข้าพเจ้าจะแจกให้ทุก
ท่าน ฟรี ไม่คิดสตางค์ นี่คือจุดยืนของข้าพเจ้า ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มต้นเขียนเพลง คือการได้แสดง
ทัศนะ มุมมอง เรื่องราว ประสบการณ์ต่างๆ  ผ่านเสียงเพลง ฝากไว้ให้กับโลกใบนี้ก่อนจะจากไป






ท้ายนี้ก่อนจาก ข้าพเจ้ามีเนื้อเพลงที่เพิ่งเเต่งเสร็จเมื่อคืนนี้สดๆ มาให้ได้อ่านกัน เพลงนี้ข้าพเจ้าเริ่ม
เขียนเมื่อประมาณ3ปีที่แล้ว แต่ว่าเขียนไม่จบ เลยดองไว้กะไม่นำเอาลงอัลบั้ม แต่เมื่อคืนนอนไม่หลับ 
เลยหยิบปากกามาเขียนต่อ พร้อมแต่งเมโลดี้ จนในที่สุดก็เขียนจชื่อเพลงว่า.ดอกฟ้าในมือมาร 

                    
                          เนื้อเพลง.ดอกฟ้าในมือมาร

                                  บนถนนลูกผู้ชาย
                         ทางเดินแขวนชีวิตบนเส้นด้าย
                         วันพรุ่งนี้ก็ยังไม่รู้จะเป็นยังไง
                  ดีหรือตาย ไม่เคยสน ขอมีเพียงลมหายใจ
                      ไปอีกวันแค่นั้นกพอใจ คืวัน มืดมน
                 อันตรายรอบกายดักรอยังไม่ครองไทยประกัน
               มีชีวิตเป็นเดิมพัน โลดแล่นบนวิถีศักศรีลูกผู้ชาย
        แต่เมื่อถึงวันที่ชั้นได้พบ เจอเธอ เธอผู้นั้นผ่านเข้ามาในชีวิต
               ทุกๆสิ่งนั้นก็เปลี่ยน มือน้อย ฉุดชั้นจากความมืด
               ได้สัมผัสแสงสว่างแห่งชีวิต ดั่งลิขิต จากฟากฟ้า
         ก่อนเคยมีชีวิตล่องลอย ดุจวิหกไร้รัง เธอทำให้ชั้นได้รู้ว่า
               ยังมีลมหายใจอยู่เพื่อใคร สอนชั้นให้รักเป็น แต่



 (ท่อนฮุค)        ชีวิตของเธอ กับชั้นมันต่างกันเหลือเกิน     
                     อย่าเสี่ยงกับทางที่ชั้นเดิน จากกันวันนี้ก็
                     เพื่อเธอ ไปเถิดไปสู่โลกของเธอ ชีวิตของ
                     เธอยังอีกไกล อย่าห่วง ถ้าชั้นยังไม่ตาย
                     จะเป็นเงาคอยคุ้มภัยดูแลข้างกาย
 



                            เปรียบกับเธอ เป็นพลัง
                    พลักดันเติมชีวิตที่กำลังจะหมดไฟ
             จิตใจที่เคยเย็นชา ยอมสยบแววตาเปล่งประกาย
                   คู่นั้นที่แสนดี รอยยิ้มที่งดงาม ตราตรึง
              ดุจดังเทพธิดาชั้นฟ้า จากปราสาททิพย์วิมาน
             ลอยมา ข้างกาย ในวันนี้ เหมือนกับฝันอัศจรรย์
             ที่ไม่เคยได้พบเจอ ขอบคุณ ที่เมตตา อันธพาล
         ไร้หัวนอนปลายเท้า ไม่มีเงาหัวกบาล ได้เคียงข้างเธอ
        แค่นี้ชีวิตก็คุ้มแล้ว ได้รู้จักคำว่ารัก แต่ในโลก ความเป็นจริง
        สองเรามีชีวิตคนละด้าน แตกต่างกันเหลือเกิน เธอมีแต่สิ่งดีๆ
               ส่วนชั้นมันมืดมนหลงทางเกินยากจะกลับตัว
 


                                      (ท่อนฮุค)

                               มีดอกไม้อยู่ในมือ
               ตัดใจกำมันวางลง เสียสละ แม้ว่าเจ็บแต่ก็ยอม
                    ปล่อยให้มัน กลับคืนไปในที่ของมัน
             สู่วิมาน
ดาวดึงส์ อย่าเอาชีวิตของเธอ แขวนไว้อยู่
                 กับชาย ที่ไม่รู้ว่าวันไหนนั้น ลูกปืนจะวิ่งชน
                  จากกันในวันนี้ เธออาจจะผิดหวังเสียใจ
         แต่สักวันตัวเธอเองจะเข้าใจ ออกไปอย่ามาจมอยู่กับชั้น
        เสียเวลา นีไม่ใช่ที่ของเธอ ข้างทางพานพบดอกฟ้าดอกนึง
              ไม่คู่ควรตกอยู่ในมือโจร เมื่อนิทาน ถึงกาลอวสาน
     บุษบาอันตธาน สู่สวรรค์
นิจนิรันดร์ โชคดี ลาก่อน ชาตินี้ไม่คู่ควร
                               ชาติหน้าค่อยพบกัน





























                                              โคมทอง 11/01/13

.....................................................................................................................................................
 
 


  19/09/12

ก่อนทักทายสหายทุกท่านที่สัญจรผ่านมา ข้าพเจ้ามีบทเพลง ที่แต่งเก็บไว้นานแล้ว 
มาอัดร้องแบบดิบๆ ให้ได้ฟังกันเป็นตัวอย่าง ก่อนตัวเต็มฉบับสมบูรณ์จะเสร็จ ลองเข้า
ไปฟังกันดู ข้าพเจ้าลงไว้ที่หัวข้อ เสพผลงานของเรา เลื่อนลงมาด้านล่างจะเจอ demo 
ตัวอย่างเพลงอันเดอร์กราวด์ กับ อันเดอร์กราวด์เวอร์ชั่นเด็กเล็ก ยังไงลองเข้าไปฟังกัน
ดูก่อนฉบับตัวเต็มจะสมบูรณ์  ในหัวข้อ  " เสพผลงานเพลงของเรา " ข้าพเจ้าจะใช้เอา
ไว้ลงงานเพลง ในนั้นจะมีทั้งเพลงเก่าที่เคยนำมาลงให้ฟัง และเพลงใหม่ที่อัพเดท ยังไง 
ลองไปตามๆกันดู
           

           ******  สวัสดีสหายร่วมโลกทุกท่านที่สัญจรผ่านมา  ******
 

ข้าพเจ้าไม่ได้มาอัพเดทซะนาน เนื่องจากช่วงนี้ข้าพเจ้ามีหลายอย่างที่ต้องทำ อีกทั้ง
ยังปวดกบาลกับปัญหาการทำเพลงไม่หาย ลองผิดลองถูกซ้ำแล้วซ้ำเล่า กับการmix
เสียง เนื่องจากข้าพเจ้าไม่เคยเรียนทางด้านนี้มา อีกทั้งภาษาอังกฤษก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง 
(เนื่องจาก สมัยเยาว์นั้น เลือดรักชาติแรงกล้าไปหน่อย วิชาภาษาอังกฤษ เลยไม่ค่อย
จะเคยเข้าเรียน) จนถึงวันนี้ ก็พออ่านออกแค่ yes no ok มันจึงทำให้ต้องนั่งกุมขมับทุก
ครั้งที่ใช้งานเจ้าโปรแกรมทำเพลง เพราะในโปรแกรมทำเพลงนั้น ข้าพเจ้าต้องประสบ
พบเจอกับภาษาอังกฤษจนมึน ซึ่งแอบน้อยใจลึกๆว่าทำไม มันไม่มีเวอร์ชั่นไทยให้ใช้มั่ง
วะ จะเอาปัญหาไปถามใคร คนรอบตัวก็ไม่มีใครใช้งานเป็นซักคน จะไปหาวิธีแก้ปัญหา
ตามเว็บ ก็ดันมีแต่ภาษาอังกฤษซะเป็นส่วนใหญ่ จะไปหาซื้อตำรามาอ่าน ก็ดันมีแต่หนัง
สือคู่มือภาษาอังกฤษอีก ถ้ารู้ว่าวันนี้จะต้องมาปวดหัวแบบนี้ ย้อนเวลากลับไปได้ จะ
พยามตั้งใจเรียนวิชาภาษาอังกฤษให้ดีเลย ตอนแรกกะไว้ว่า จะไปจ้างตามห้องอัดmix
เสียง แต่ก็เอาเงินมาลงกับอุปกรณ์เพลง จนหมดตูด กว่าจะได้อุปกรณ์ครบ ใช้เวลาเก็บ
สตางค์ ล่อไปเกือบ1ปีเลยทีเดียว เนื่องจากข้าพเจ้าไม่ได้ทำงาน หนังสือ หนังหา ก็ไม่เรียน
มัวแต่ทรนงในอุดมการณ์ตัวเอง ก็เลยจำต้องไส้แห้งอาศัยขายcdเพลงที่ตัวเองรักและเก็บ

สะสมมา เพื่อนำเงินมาหล่อเลี้ยงชีวิต ให้มีแรงก้าวตามความฝัน จนที่บ้าน ต่างปวดกบาล
และปลงกับข้าพเจ้าแล้ว 


ทำไงได้ ก็ชีวิตนี้ ข้าพเจ้ามีแค่ชีวิตเดียว พรุ่งนี้ ก็ยังไม่รู้จะมีลมหายใจอยุ่ถึงเมื่อไหร่ ตราบใด
สิ่งที่ข้าพเจ้าทำ ไม่ทำให้ใครเดือนร้อน ข้าพเจ้าก็จะแน่วแน่กับสิ่งที่ข้าพเจ้ารักต่อไป ถึงแม้
บางครั้ง มันอาจเหนื่อยหน่ายเหลือเกิน แต่ข้าพเจ้าก็จะพยาม สร้างผลงานให้ออกมาดีที่สุด
เท่าที่ข้าพเจ้าจะทำได้ในตอนนี้ อาจมีหลายคน ที่มองโลกคนละด้าน ถามข้าพเจ้าว่า ที่ทำอยู่
ทุกวันนี้ มันอิ่มท้องเหรอ มันกินได้รึปล่าว ไอ้อุดมการณ์บ้าบอนะ  ข้าพเจ้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่า
มันกินได้มั้ย บางทีคนพวกนั้นอาจจะพูดถูกก็ได้ เพราะหลายครั้งท้องของข้าพเจ้ามันก็ร้อง 
เพราะหลายครั้ง ใจของข้าพเจ้า มันก็โหยหาเสื้อผ้าสวยๆ มาประดับกาย เพราะหลายครั้งตัว
ข้าพเจ้า ก็อยากมีรถสวยๆราคาแพงๆไว้ประดับบารมี แต่ว่า 

ถ้าต้องขายวิญญาญตนเอง เพื่อให้ได้สิ่งนอกกายพวกนั้นมา ข้าพเจ้าขอแบกอุดมการณ์ พร้อม
เชิดหน้าเดินไปในวิถีทางของข้าพเจ้าเช่นเดิม ถึงแม้ว่าท้องมันจะร้องจนแทบจะขาดใจ ถึงแม้
ว่ารองเท้าคู่เก่ามันจะขาด จนต้องเดินตีนปล่าวเหยียบตะปุ แต่ข้าพเจ้าก็ภูมิใจ ที่ได้มีชีวิตที่เลือก
เอง ได้ทำในสิ่งที่อยากจะทำ ได้ทำในสิ่งที่ข้าพเจ้ารัก ได้สร้างผลงานเพลงของตัวเอง ฝากไว้
ให้กับโลกใบนี้ก่อนจะจากไป  แค่นี้ข้าพเจ้าก็นอนตายตาหลับแล้ว
 

ข้าวปลาเลิศรสของบางคน  มันเป็น อาหารของร่างกาย เมื่อขี้ออกมา มันก็สลายไป
เสื้อผ้าอาภรณ์ สุดเลิศหรูของบางคน  มันเป็น  เปลือกที่เอาไว้ห่อหุ้มร่างกาย เมื่อเวลาผ่าน

ไปมันก็กลายเป็นผ้าเช็ดตีน   แต่ว่า  อุดมกาณ์ของกู มันเป็นอาหารของจิตวิญญาญ ถึงแม้
สังขารกูจะเหลือเพียงธุรี  แต่  งานของกู มันจะคงอยู่ตลอดไป

                          โคมทอง 19/09/12

.....................................................................................................................................................
 
  
 29/03/12

00:27 คืนนี้ เป็นอีกคืน ที่ข้าพเจ้ายังคงวุ่นอยู่กับการทำเพลง
เนื่องจาก ข้าพเจ้าทำเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่ คิดคอนเซ็ปต์

แต่งเนื้อร้อง เรียบเรียง แหกปากร้อง อัดเสียง mixเสียง จนไปถึง
โปรโมท มันจึงค่อนข้างใช้เวลาพอสมควร เพราะอยากให้งานออก
มาดีที่สุด สำหรับหลายคน ที่รอฟังงานของข้าพเจ้าอยู่ ทั้งที่แสดง                                                              ตนและไม่เผยตัว ทั้งที่ช่วยกันเผยแพร่ และส่งข้อความ ส่งอีเมลมา                                                            ให้กำลังใจกัน ข้าพเจ้าขอบคุณ ขอบคุณจริงๆ

ในตอนนี้ ข้าพเจ้ากำลังทุ่มเทอย่างเต็มที่ สำหรับเพลงต่อไป
ที่พวกท่านจะได้ฟังกัน เพลงนี้ ข้าพเจ้าเขียนไว้หลายปีแล้ว 
เป็นงานเพลงกึ่งทดลอง มีชื่อเพลงว่า ตุ๊กตา ตอนนี้ กำลังอยู่ใน
ขั้นตอน การอัดเสียงซึงอยู่ คงอีกไม่นาน เมื่อถึงเวลาอันสมควร        
พวกท่านคงได้ฟังกัน
                                  โคมทอง  29/03/12
........................................................................................................................................................


 27/02/12

กว่า ณ.ที่แห่งนี้ จะเสร็จ ใช้เวลานานพอควรเหมือนกัน
เหตุเพราะ เรามันคงเป็นพวก โลเทค เป็นนกที่ชอบบิน
ทวนกระแสลม ท่ามกลาง โลกเทคโนยุคฉับไว ที่ใคร
ต่อใคร ต่างพากันโบยบินเข้าหามัน หวนย้อนไปหลายปี 
สมัยเริ่มทำงานเพลงแรกๆ ยามนั้น เคยครุ่นคิดว่า วันนึง 
ถ้าเราทำงานเพลงเสร็จ เราจะให้คนอื่น ได้ฟังงานเพลง
ของเรายังไง จนผ่านมาหลายปี สู่ยุคที่ฟันเฟืองโนโลยี 
ขับเคลื่อนโลกใบนี้แบบเต็มกำลัง หลายต่อหลายอย่าง 
มันช่าง ง่ายแสนง่าย ประดุจดั่ง เสกกล หลายต่อหลาย
อย่าง มันช่าง ไวแสนไว ประดุจดั่ง ล่องหน หลายสิ่งรอบ
กาย เปลี่ยนแปลงไปตามสายธารแห่งกาลเวลา คงมีเพียง
เรา เราที่จนป่านนี้ ยังไม่รู้เลยว่า เจ้าtwitter มันใช้งาน
ยังไง เราที่ยังไม่รู้เหมือนกันว่า เจ้าfacebook มันเล่นยังไง 
อาจคงเป็นเพราะ เรามันเป็นพวกหลังเขา ทั้งๆที่อยู่ท่าม
กลางความเจริญ แต่กลับใช้ชีวิตอยู่อีกโลกนึง คงจะมีเพียง
ที่แห่งนี้ ที่ทำให้เราปรับตัว  เรียนรู้โลก  เทคโนโลยี
                       โคมทอง  27/02/12
..............................................................................................................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น